top of page

ผู้ใหญ่ที่จากไป

ศรีศักร วัลลิโภดม

อัปเดตเมื่อ 8 ก.พ. 2567

เผยแพร่ครั้งแรก 1 มี.ค. 2544


ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา มูลนิธิประไพ วิริยะพันธุ์ ต้องเสียปูชนียบุคคลไปถึง ๒ ท่าน คือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ และอาจารย์ประยูร อุรุชาฎะ หรือ น. ณ.ปากน้ำ ผู้เป็นครูที่พวกเราเคารพเสมอมา


คุณเล็ก วิริยะพันธุ์นั้น คนส่วนใหญ่รู้จักผิวเผินเพียงในนามของ “เสี่ยเล็กธนบุรี” ในสมัยที่ท่านยังดูแลกิจการธุรกิจในบริษัทธนบุรีพานิช ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ในประเทศไทย คุณเล็กเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการที่ทำให้รถเบนซ์ติดอันดับ เป็นทั้งสถาบันของรถที่มีคุณภาพและสัญลักษณ์ของบุคคลที่มั่งคั่งในประเทศไทย



แต่ต่อมาเมื่อคุณเล็กหันหลังให้กับการทำธุรกิจ โดยไปสร้างเมืองโบราณเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สมุทรปราการแล้ว คนก็เปลี่ยนมาเรียกคุณเล็กว่า “เสี่ยเล็ก เมืองโบราณ” แทน โดยยังติดคำว่าเสี่ยที่มีนัยของการเป็นนักธุรกิจ นายทุนอยู่อย่างเดิม


เหตุที่ไม่ใคร่มีคนรู้จักมากมายอะไรนั้น เป็นเพราะคุณเล็กได้อุทิศเวลาทั้งหมดในชีวิตของท่านไปกับการทำกิจกรรมทางปัญญา ประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมเป็นชีวิตจิตใจ ใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือและสุภาษิตที่เป็นประโยชน์พร้อม ๆ กับการสะสมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่มีคุณค่า จนกล่าวได้ว่าบรรดาของโบราณที่คุณเล็กรวบรวมไว้นั้น ล้วนมีคุณค่าในระดับชั้นนำของประเทศทีเดียว


ความรู้ความเข้าใจในเรื่องปรัชญา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมได้ทำให้คุณเล็กแลเห็นความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่ท่านประสบความสำเร็จเป็นเพียงแค่ทางผ่าน ยิ่งกว่านั้นยังแลเห็นการพัฒนาบ้านเมืองที่ดำรงอยู่ในยุคสงครามเย็น ทั้งรัฐและสังคมละเลยอดีตและคุณค่าทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรมที่มีความสำคัญในเรื่องของความเป็นมนุษย์ในมิติทางจิตวิญญาณ



การสร้างเมืองโบราณเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญของคุณเล็ก เพราะได้รู้ได้เห็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรมนั้น นับได้ว่ามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์การรื้อถอนสิ่งที่เป็นหอศิลปสถาปัตยกรรมตามภาคต่าง ๆ ของประเทศมาสร้างเก็บไว้เป็นเมืองโบราณ


คุณเล็กมีความสุขที่ได้แลเห็นคนมาเที่ยวและศึกษาที่เมืองโบราณ โดยเฉพาะพวกเด็ก ๆ และเยาวชนที่ครูพามาศึกษาหาความรู้สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณเล็กอุทิศเวลาที่เหลือในชีวิตของท่านให้แก่การสร้างกิจกรรมทางปัญญา


คุณเล็กสร้างสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติมในเมืองโบราณตลอดเวลา สร้างปราสาทสัจธรรมในที่ดินของท่านที่พัทยา โดยมีความมุ่งหมายที่จะเชิดชูสิ่งที่เป็นปรัชญาและคุณธรรมที่ศาสนาและปราชญ์ของโลกได้แสดงไว้ รวมทั้งเลือกเฟ้นรูปแบบและเรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรมของสังคมต่าง ๆ ในเอเชียมาแกะสลักประดับไว้ และเมื่อก่อนที่จะจากไปก็ได้สร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณที่ตำบลสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นไว้เป็นที่เก็บและแสดงโบราณวัตถุศิลปวัตถุที่ได้สะสมไว้ เพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ยังอยู่ในประเทศไทยสืบไป


คุณเล็กเป็นคนซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์และเห็นคุณค่าของความสำคัญของเวลาอย่างแทบจะหาผู้เสมอเหมือนมิได้ นับแต่การสร้างเมืองโบราณมาจนสิ้นอายุขัย คุณเล็กทำงานสร้างสรรค์ตลอดเวลา ทั้งคิดทั้งคุมงานก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง เริ่มแต่เช้าจนเย็นและกลางคืน มีการกินอยู่หลับนอนอย่างง่าย ๆ อีกทั้งไม่สนใจคบค้าสมาคมกับผู้ใดที่ทำให้มีผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจการเมืองและชื่อเสียงเกียรติยศ เหตุนี้จึงไม่มีใครรู้เรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับคุณเล็ก


ผู้ที่ทำให้คุณเล็กได้ทำงานอย่างราบรื่นโดยไม่ต้องคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจก็คือ คุณประไพ วิริยะพันธุ์ ผู้เป็นภรรยา เป็นผู้ที่ต้องรับภารกิจในการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทและเครือข่าย รวมกับบุตรธิดาในครอบครัว คุณประไพเป็นคนที่ไม่ปล่อยให้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นเดียวกับคุณเล็ก ทำหน้าที่ปลูกและเพาะพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ส่งมาให้คุณเล็กปลูกในเมืองโบราณแทบทุกอาทิตย์ อาจกล่าวได้บรรดาต้นไม้ทั้งหลายที่เติบโตในเมืองโบราณที่แต่เดิมเป็นทุ่งโล่งดินเค็มนั้นคือสิ่งที่เกิดมาจากการใช้เวลาว่างจากงานธุรกิจของคุณประไพ วิริยะพันธุ์


เมื่อคุณประไพจากไป คุณเล็กก็ให้ตั้งมูลนิธิประไพ วิริยะพันธุ์ขึ้นเป็นอนุสรณ์ ให้ดำเนินการทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีและวัฒนธรรม เพื่อคนทั่วไปในสังคม โดยเฉพาะในด้านบริการข้อมูลข่าวสารและการสนับสนุนการจัดพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น พร้อมกันนั้นก็ได้ผนวกการพิมพ์วารสารเมืองโบราณให้เข้ามาเป็นกิจกรรมของมูลนิธิฯ ด้วย


วารสารเมืองโบราณเป็นสิ่งที่คุณเล็กทำให้มีขึ้นกว่ายี่สิบปีที่แล้ว โดยมีเหตุมาจากประสบการณ์ของคุณเล็กในช่วง ๑๐ ปีแรกของการสร้างเมืองโบราณ คุณเล็กเดินทางไปเก็บข้อมูลตามท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศได้แลเห็นว่า ข้อมูลหลักฐานทางโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม และชาติพันธุ์ของท้องถิ่นนั้น ไม่ใคร่มีใครสนใจศึกษากำลังอยู่ในสภาพที่หมดไปเพราะคนไม่สนใจ จึงอยากจะให้มีการค้นคว้าและพิมพ์ขึ้นเผยแพร่



คุณเล็กเป็นคนอ่านและติดตามอยู่ตลอดเวลาว่า มีผู้ใดบ้างที่สนใจศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้ ก็พบว่าอาจารย์ประยูร อุสุชาฎะ ผู้ใช้นามปากกาว่า น.ณ.ปากน้ำ คือผู้ที่โดดเด่นกว่าใคร ๆ คือทั้งออกศึกษาค้นคว้าสิ่งใหม่ ๆ และเขียนขึ้นมาให้คนอื่นได้รับรู้อย่างสม่ำเสมอ คุณเล็กจึงเชิญอาจารย์ประยูรมาเป็นหลักในการค้นคว้าและจัดทำวารสารเมืองโบราณขึ้น โดยให้เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่แยกเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานสร้างเมืองโบราณที่บางปู เพราะในช่วงเวลานั้นมีผู้กล่าวหาอยู่เนือง ๆ ว่า คุณเล็กสร้างเมืองโบราณเพื่อหนีภาษี หรือไม่ก็เพื่อทำธุรกิจอะไรทำนองนั้น


ความต้องการของคุณเล็กก็คืออยากให้อาจารย์ประยูร เป็นทั้งหัวหน้าโครงการค้นคว้ารวบรวมหลักฐานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และในขณะเดียวกันก็เป็นบรรณาธิการของวารสารเมืองโบราณด้วย แต่อาจารย์ประยูรปฏิเสธขอทำหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษา ทั้ง ๆ ที่ในการจัดรูปแบบและโครงสร้างของวารสารนั้น อาจารย์ประยูรเป็นผู้ดำเนินการเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งกว่านั้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่ออกไปสำรวจค้นคว้าเก็บข้อมูลตามท้องถิ่นต่าง ๆ ด้วยทุกครั้ง


แต่ละครั้งอาจารย์จะเป็นผู้นำและแนะให้มีการถ่ายภาพสิ่งที่พบเห็นไว้เป็นหลักฐาน จนกล่าวได้ว่า บรรดาภาพถ่ายของสถานที่และสิ่งสำคัญทางศิลปวัฒนธรรมที่ปัจจุบันกลายเป็นสมบัติของมูลนิธิประไพ วิริยะพันธุ์นั้น เกิดจากการชี้แนะของอาจารย์ประยูรแทบทั้งสิ้น


นอกจากนั้นอาจารย์ยังนำบรรดาฟิล์มและภาพถ่ายต่าง ๆ ที่ทำไว้ด้วยทุนส่วนตัว ครั้งก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานวารสารเมืองโบราณ มอบให้กับศูนย์ข้อมูล เพื่อการให้บริการแก่นักวิชาการและนักศึกษาที่มาขอความรู้และขอความช่วยเหลือ


อาจารย์ประยูรคือผู้ที่กู้หลักฐานข้อมูลทางศิลปวัฒนธรรมในยุคสงครามเย็นอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่ทำการศึกษาสำรวจและถ่ายภาพเก็บไว้เท่านั้น หากยังเป็นผู้ขยันในการเขียนเป็นหนังสือและบทความเผยแพร่อย่างทันท่วงทีคือไม่ค่อยแช่ข้อมูลไว้แล้วมาเขียนขึ้นภายหลัง แต่จะเขียนและนำเสนอทันทีเมื่อได้พบเห็นมา เพราะอาจารย์มีความเห็นว่าในช่วงเวลานั้น ความจำและภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ยังดีอยู่



เหตุนี้จึงมีหนังสือและข้อเขียนของอาจารย์มากมาย เขียนบรรยายและพรรณนาอย่างง่าย ๆ พร้อมด้วยความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ ไม่เน้นรูปแบบและโอ้อวดในเรื่องแนวคิดทฤษฎี แต่มุ่งที่จะให้คนทั่วไปได้รู้ได้เข้าใจให้มากที่สุด อาจกล่าวได้ว่าอาจารย์มีความเห็นในการเสนอข้อมูลพื้นฐาน (Basic Research) อย่างหาผู้เสมอเหมือนยาก โดยเฉพาะเรื่องจิตรกรรมฝาผนังตามวัดต่าง ๆ ลวดลายปูนปั้นและลายไทยโบราณต่าง ๆ ที่มีอยู่ในหลักฐานทางโบราณคดีนั้น เกือบจะไม่มีผู้ใดค้นคว้าและรวบรวมได้เท่ากับอาจารย์ประยูร อุลุชาฎะ


บัดนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านคือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ และอาจารย์ประยูร อุลุชาฎะ ได้จากไปแล้ว แต่เจตนารมณ์และผลงานของท่าน คือสิ่งที่จะผลักดันให้มูลนิธิฯ ดำเนินงานต่อไปอย่างมั่นใจและมั่นคง อักทั้งจะเป็นการขยายชื่อมูลนิธิประไพ วิริยะพันธุ์ เป็น “เล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์” รวมทั้งการขยายการดำเนินงานของมูลนิธิฯเพื่อสังคมให้กว้างกว่าแต่เดิมด้วย


 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:


Comentarios


เกี่ยวกับมูลนิธิ

เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ ๕๘๐ ของประกาศกระทรวงการคลังฯ เผยแพร่ความรู้และความเข้าใจทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถิ่นต่างๆ และเพื่อสร้างนักวิจัยท้องถิ่นที่รู้จักตนเองและรู้จักโลก

SOCIALS 

© 2023 by FEEDs & GRIDs. Proudly created with Wix.com

bottom of page